วันนี้ขอขึ้นต้นด้วยคำคมทางปรัชญากันนิดนึงค่ะ เพราะในหัวข้อที่แล้วซึ่งเป็นหัวข้อแรกเลยในการเริ่มทำบล็อค ทำให้มีข้อมูลผิดพลาดกันอยู่บ้าง จึงนำเอาคำคมมาเปรียบเทียบกับตัวผู้เขียนเองว่าเมื่อ 4 เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง และจะนับประสาอะไรกับนิสิตตาดำๆที่ความรู้น้อยและด้อยประสบการณ์คนนี้ล่ะค่ะ ก็ต้องมีการผิดพลาดกันบ้างเป็นของของธรรมดา และด้วยเวลาที่ตัวผู้เขียนเองค่อนข้างมีจำกัด เนื่องจากไม่มีคอมพิวเตอร์ส่วนตัว บางทีก็ขอยืมเพื่อนบ้าง หรือบางทีก็ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนรวม ได้ยืนเล่นบ้าง นั่งเล่นบ้าง แล้วแต่โชคชะตาจะเอื้ออำนวยค่ะ แม้จะมีข้อผิดพลาด แต่ผู้เขียนก็จะพยายามปรับปรุงแก้ไข ถามผู้ที่มีความรู้และผู้ที่มีประสบการณ์ และจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุดค่ะ
รัฐในอุดมคติ
ถ้าพูดถึงรัฐในอุดมคติแล้ว ตัวผู้เขียนเองอาจจะบอกได้อย่างไม่มั่นใจว่ารัฐหรือระบบการปกครองแบบไหนดีที่สุด เพราะตัวผู้เขียนนั้นเป็นผู้ที่อ่านหนังสือเกี่ยวกับการเมือง การปกครองน้อย แต่เท่าที่ได้อ่านและได้ศึกษาดู ก็คงอยากจะให้เป็นเหมือนกับประเทศบรูไน เนื่องจากประเทศบรูไนปัจจุบันเป็นประเทศเล็กๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เนื่องด้วยทรัพยากรที่มีศักภาพสูงในสายตาชาวโลก โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ
องค์สุลต่าน เซอร์ มูดา หะซะนัล โบลกียะฮ์ ซึ่งเป็นองค์สุลต่านของประเทศบรูไน นอกจากจะดำรงตำแหน่งประมุขของประเทศทั้งทางการเมืองและศาสนา และพระองค์ทรงมีบทบาทมากในฐานะผู้นำของประเทศในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม จนแทบเรียกได้ว่าประเทศบรูไนปัจจุบันยังมีการปกครองโดยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์อยู่ ทั้งนี้ก็คงเป็นเพราะองค์สุลต่านทรงเป็นผู้จัดวางนโยบาย ทรงบริหารและทรงควบคุมดูแลบ้านเมืองโดยพระองค์เองทั้งสิ้น โดยมีเชื้อพระวงศ์ที่ใกล้ชิดเป็นผู้ช่วย ที่น่าสังเกตสำหรับบทบาทขององค์สุลต่านผู้ปกครองบรูไน คือ แม้พระองค์จะทรงใช้พระราชอำนาจอย่างเต็มที่ในการปกครองตามรูปแบบของการปกครองสมบูรณาญาสิทธิราชย์ก็ตาม แต่ก็ไม่เคยเกิดปัญหาร้ายแรง คงเป็นเพราะทรงมีความสามารถในการปกครองและการบริหารประเทศ ที่ทำให้ประชาชนเห็นว่าทรงทำทุกอย่างเพื่อให้ประชานมีการดำรงชีวิตที่ดีที่สุดในทุกๆด้าน แม้จะทรงได้รับการวิพากษ์วิจารณ์บ้างว่าการดำเนินนโยบายบางประการของพระองค์โดยเฉพาะด้านการเมืองเศรษฐกิจจะทำเพื่อพระองค์เองก็ตาม
ด้านการเมือง
องค์สุลต่านองค์ปัจจุบันทรงมีบทบาทมาก พระองค์ทรงปฏิบัติภารกิจทางด้านนี้อย่างเต็มที่ เริ่มจากการเสนอหลักการปกครองประเทศที่ทรงย้ำว่าให้ชาวบรูไนเป็นสาระสำคัญที่พึงยึดถือยึดปฏิบัติ และพึงมีความศรัทธาอย่างไม่ต้องมีข้อสงสัย ซึ่งได้รับการยอมรับจากประชาชนเป็นอย่างดี คือ หลักไตรลักษณ์ ลักษณะสำคัญของหลักนี้มีความหมายว่า หลักสำคัญที่ชาวบรูไนควรยึดถือคือ องค์สุลต่านเป็นประมุขของประเทศ ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ และชาวมาเลย์เป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ แม้จะเห็นว่าองค์สุลต่านจะมีอำนาจเต็มที่ทางการเมือง แต่พระองค์ก็ทรงเปิดโอกาสให้ชาวบรูไนมีส่วนร่วมในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย คือ สามารถตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาได้เช่น พรรคประชาธิปไตยแห่งบรูไน และพรรคสหชาติบรูไน จุดมุ่งหมายของทั้งสองพรรคมีแนวนโยบายที่คล้ายคลึงกัน คือ ต้องการปลุกประชาชนให้ตื่นตัวในระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย ซึ่งนับว่าค่อนข้างจะท้าทายอำนาจการปกครองระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ทำให้องค์สุลต่านใช้พระราชอำนาจในฐานะผู้นำของรัฐบาลประกาศยุบพรรคการเมืองภายใต้กฎอัยการศึก การกระทำในลักษณะนี้ขององค์สุลต่านไม่ปรากฎว่าไม่ได้รับผลสะท้อนมาจากประชาชนเลย เพราะประชาชนชาวบรูไนไม่นิยมระบบพรรคการเมือง
ด้านศาสนา
ทรงให้ความสำคัญกับศาสนามาเป็นอันดับหนึ่งในการบริหารประเทศ เพราะทรงแสดงออกอย่างเด่นชัดว่า ทรงไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้ชาวบรูไนรับวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาในประเทศ เพราะทรงเห็นว่าวัฒนธรรมตะวันตกสมัยใหม่จะทำให้เกิดสิ่งไม่ดีต่างๆกับชาวบรูไน เช่น จะทำให้ชาวบรูไนชอบการเที่ยวเตร่ ชอบการดื่มสุรา และนำมาซึ่งการละเลยกิจวัตรที่ดีงามของศาสนาอิสลาม ดังนั้นพระองค์จึงใช้วิธีเข้มงวดกวดขันการเข้ามาสู่บรูไนของวัฒนธรรมตะวันตกจากฝ่ายที่รับผิดชอบด้านศาสนา เพื่อจะให้ประชาชนชาวบรูไนได้รับการปลูกฝังตามวัฒนธรรมที่ดีงามของศาสนาอิสลาม นอกจากนี้ รัฐก็พยายามที่จะสร้างมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้น เพื่อยกระดับการศึกษาของประชาชนให้สูงขึ้น เพราะรัฐบาลของบรูไนไม่นิยมส่งนัศึกษาไปต่างประเทศ เนื่องจากมีความหวาดระแวงว่าจะละทิ้งขนบธรรมเนียมและชักนำวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาสู่สังคมอิสลามของบรูไน
ด้านสังคม
ประชาชนชาวบรูไนได้ชื่อว่าโชคดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับประชาชนในประเทศต่างๆของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกันคือ ชาวบรูไนจะได้รับบริการและสวัสดิการในทุกๆด้านจากรัฐอย่างเต็มที่ ตั้งแต่เกิดจนตายเลยทีเดียว คือ ตั้งแต่การศึกษา การรักษาพยาบาล ที่อยู่อาศัยโดยรัฐจะบริการหาให้โดยคิดดอกเบี้ยในอัตตราที่ต่ำมาก บางกรณีถึงขั้นให้อยู่ฟรี ภาครัฐและเอกชนจะมีงานให้ประชาชนทำอย่างเหลือเฟือ โดยรัฐจะคอยสอดส่องดูแลเรื่องค่าตอบแทนที่จะได้รับหลังเกษียณแล้ว โดยตั้งกองทุนสำหรับลูกจ้างที่เป็นชาวบรูไนหรือพวกที่มาอยู่ในบรูไนอย่างถาวร มีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปี เป็นผู้ที่ไม่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญหรือเงินใดๆจากทางบริษัท โดยผู้ที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกของกองทุนจะต้องเสียสละเงินร้อยละ 5 ของเงินเดือนของเงินเดือนของตน ฝากไว้กับกองทุนนี้และบริษัทผู้จ้างจะจ่ายเพิ่มให้อีกร้อยละ 5 รวมเป็นเงินสะสมรายเดือนร้อยละ 10 ของเงินเดือน รัฐจะนำไปทำให้งอกเงยและเกิดผลกำไรเพื่อนำมาจ่ายคืนให้กับสมาชิก จะเบิกได้เมืออายุครบ 50 ปี ส่วนผลทางอ้อมที่รัฐบาลมุ่งหวังก็คือต้องการจะให้ประชาชนชาวบรูไนหันไปทำงานกับภาคเอกชนมากขึ้น เพราะแต่เดิมชาวบรูไนพอใจที่จะเป็นข้าราชการมากกว่าที่จะเป็นลูกจ้างของเอกชน เนื่องจากเห็นว่าภาครัฐให้ทั้งเงินเดือนและสวัสดิการที่ดีกว่าภาคเอกชน และอีกประการหนึ่งที่รัฐบาลหวังที่จะสร้างนิสัยการออมทรัพย์ให้เกิดขึ้นกับประชานชนอีกด้วย ในขณะเดียวกัน เงินทุนตามโครงการนี้ก็จะไปเป็นเงินทุนของรัฐไปพร้อมๆกัน
ด้านเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจของประเทศบรูไนยังคงผูกขาดอยู่กับน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลผลิตประมาณ 72 % ของผลผลิตทั้งหมดภายในประเทศ และ 99% ของการส่งออก ประเทศบรูไนมีรายได้จากทรัพยากรทั้งหมดของประเทศเพราะยังมีปริมาณคงเหลืออยู่ในประเทศอย่างเหลือเฟือ ฉะนั้นผลกระทบโดยรวมทั้งหมดของประเทศบรูไน จึงยังไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
สาเหตุที่รัฐในอุดมคติเป็นเหมือนประเทศบรูไน อย่างแรกเลยคิดว่าเป็นประเทศที่ เจ๋ง และรวย เป็นประเทศที่มีประชากรน้อย มีการปกครองแบบพ่อปกครองลูก จึงทำให้ประเทศบรูไนเป็นประเทศที่น่าสนในจึงหยิบยกขึ้นมาเป็นตัวอย่าง และมีความคิดว่ารัฐในอุดมคติของผู้เขียนก็อยากให้เป็นแบบประเทศบรูไนบ้าง เนื่องจากมีการค้าน้ำมัน และผลิตน้ำมันได้เอง ทำให้เป็นประเทศที่มีฐานะทางการเงินดี หรือรวยนั่นเอง ถ้ารัฐในอดมคติจะเป็นไปได้ก็อยากให้ผู้ปกครองรัฐเห็นแก่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นสำคัญ และให้การช่วยเหลือประชาชนเหมือนที่ชาวบรูไนได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่สิ่งที่รัฐในอุดมคติไม่อยากให้เป็นเหมือนกับประเทศบรูไนก็คือทางด้านศาสนา ไม่ต้องเคร่งครัดศาสนาอย่างชาวบรูไนก็ได้ เป็นชาวพุธทที่รักสงบนี่แหละดีแล้ว ไม่ต้องเคร่งศาสนาจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะละเลยสิ่งที่ปฏิบัติได้ ผู้เขียนอยากให้ประชาชนในรัฐในอุดมคติมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน จะไม่มีคนจนในรัฐจะมีแต่คนรวยและรวยเท่าเทียมกัน สุดท้ายเลยก็อยากจะให้ประชาชนในรัฐมีความสามัคคี สมานฉันท์ รักใครปองดรองกัน เพื่อความสุขของทุกๆคน
น้ำมัน เป็น 72% ของผลผลิต เป็น 99% ของการส่งออก
ตอบลบไม่รวยก็ไม่แปลกแล้วล่ะคับพี่น้อง
การที่ ไม่รับวัฒนธรรมข้างนอก เข้าประเทศ เลย นี่มันเป็นเรื่องที่ดีรึเปล่าอ่ะ?
คงเป็นเพราะว่าเค้าไม่รับเอาความคิดจากตะวันตกเข้ามา ล่ะมั้ง
เลยทำให้เค้ายังรักษาระบบ นี้ได้อยู่
มองดู อาจจะเหมือน ล้าหลัง
แต่ กลับ รุ่งเรือง และ ร่ำรวย...
งืมๆๆ ขอบคุณสำหรับความรู้เพิ่มเติม จ้า
ชอบในเรื่องการกวดเข้มวัฒนธรรมตะวันตกที่จะเข้ามสู่ภายในประเทศ
ตอบลบประเทศญี่ปุ่นเองก็เคยมีนโยบายปิดประเทศที่แข็งกร้าว จนภายหลังต้องยอมเปิดประเทศเพราะโดนกดดันจากชาติมหาอำนาจในฝั่งตะวันตก
แรกเริ่มนั้นญี่ปุ่นอาจจะเป็นเพียงแค่ผู้ตาม แต่ญี่ปุ่นเองก็สามารถพัฒนาตนเองให้มีความทัดเทียมหรือแม้กระทั่งล้ำหน้าประเทศตะวันตกได้ อาจจะถือได้ว่าเป็นหน้าเป็นตาให้กับชาวเอเชียอย่างเราๆ (^^ ขอมีส่วนสักนิดก็ยังดี)
แต่ในขณะที่ไทย แนวคิดการยกย่องเชิดชูวัฒนธรรมตะวันตก เริ่มมาจากตอนไหนไม่รู้ จนทำให้เราต้องคล้อยตามเขาไปเสียทุกเรื่อง อีกสักกี่ปีกันเชียวที่เราจะพัฒนาได้ทัดเทียมกับเขา เฮ่อ....
อ่านแล้วอยากไปอยู่บรูไนและเนี่ย
ตอบลบชิวิตคงสบายจิง
แต่ถ้าบรูไนดูดน้ำมัน มาใช้มาขายจนหมด
จะอยู่กันอย่างไร
เพราะเป็นเกาะเล็ก ที่อยู่ชายๆ ประเทศอินโดนีเซีย
พื้นที่น้อย ต้องใช้สอยให้เกิดประโยชน์
แต่ชอบที่การกครอง มีผู้นำแค่คนเดียว
ความเด็ดขาดอยุ่ที่พระมหากษัตริย์
ไม่มีอำนาจที่มาคานค้ำกันอยุ่
ว่าถ้าตัดสินใจไปแล้วกระกระทบฝ่ายไหนๆ บ้าง
เมื่อการตัดสินใจและปกครองอยุ่ที่ จุดจุด มันก็จบ
ไม่มีใครกล้าแย้ง ก็ดีเหมือนกัน
นี่ส่วนตัว ชอบที่มันเอาทรายมาถมทะเล
ดูดจากทะเล ขึ้นมาอีกที
แล้วสร้างบ้านเป็นโซน ที่เป็นรูปต้นปาล์มอ่ะ
ถึงแม้จะเป็นประเทศเล็กๆ
ถ้าการปกครอง มีนโยบายทั่งทุกคนในประเทศ
ถือว่าประสบความความสำเร็จมากมายมหาศาล
เอ็ม...
ตอบลบอ่านแล้วอยากเข้าไปอยู่ในประเทศ "ต้นแบบ" ของเอ็มจัง
ครั้งหนึ่งครูเคยเข้าไปใช้ชีวิตอยู่สักหนึ่งสัปดาห์ ในประเทศต้นแบบของเอ็ม
เห็นด้วยกับเอ็ม และคิดว่าครั้งหนึ่ง ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 สยามประเทศของเรา ภายใต้ทศพิธราชธรรมของระบบกษัตริย์ ก็น่าอยู่แบบไทย ๆ ไม่แพ้ บรูไน ในวันนี้
เอ็มมีทักษะ พัฒนาการทางการแสดงความเห็นได้ดีขึ้น พยายามฝึกฝนต่อไปนะ...
...เป็นแรงใจช่วย...
อาจารย์แรก
อืมที่บูรไนเค้ามีการพัฒนาอาจเป็นเพราะ
ตอบลบทัศนะความคิดและการปกครองของเค้า...
ต้องการให้ประเทศและคนในประเทศมีความเป็นอยู่ที่ดี
มากกว่าคนในประเทศเรา..เหอะเหอะ
การที่เค้าไม่รับวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามามันเปงผลดีมากมาย
เแต่ก็อาจมีส่วนน้อยที่เปงผลเสีย
แต่น่าจะเป็นผลดีมากกว่า..ไม่งั้นเค้าคงเปิดรับ..แน่ๆ
การที่บ้านเมืองเราจะพัฒนาได้นั้น
มันขึ้นอยู่กับปัจจัยมากมายหลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรมนุษย์ ทรัพยากรธรรมชาติ
เศรษฐกิจ..และที่สำคัญ
คือ คนในสังคมและผู้ปกครองประเทศ
ถ้ามีผู้ปกครองดีก็ดีไป..แต่ถ้าแย่่ก็คง...น่าสงสาร
ดังเช่นประเทศเราในปัจจุบันนี้
คิดแล้วถ้าประเทศเรารักษาวัฒนธรรมอันดีได้อย่างบรูไนก็คงดีกว่านี้
ตอบลบอ่านแล้วอยากไปอยู่เนอะ คงสบายน่าดู
ความสามัคคี
ตอบลบสมานฉันท์
ปองดรองกัน
ไม่ใช่เพื่อใคร
แต่เพื่อตัวเราเอง
ขนาดตัวเองยังไม่ทำเพื่อตัวเอง
แล้วนำประสาอะไรจะไปทำเพื่อคนอื่น
เริ่มที่ตัวเรา
ม้อมุูลเน่นน่ะ
ตอบลบดีมากในทางวิชาการ
แต่ถ้าจะให้เนื่อหาน่าสนใจ
ต้องบวกแนว Drama นิสนุง
แล้วจะมาเม้นให้อีกนะ
...Savant