
สวัสดีทุกๆท่าน และท่านอาจารย์แรกค่ะ ผู้ที่สั่งงานและให้ส่งงานในบล็อก
คือไม่เคยทำบล็อคแบบนี้มาก่อนก็เลยยังดูงงๆอยู่บ้าง
แต่ก็พยามสุดชีวิตเพื่อที่จะได้ที่จะได้เขียนบทความลงในบล็อค
ให้ทุกๆท่านๆได้อ่านกันค่ะ
คือไม่เคยทำบล็อคแบบนี้มาก่อนก็เลยยังดูงงๆอยู่บ้าง
แต่ก็พยามสุดชีวิตเพื่อที่จะได้ที่จะได้เขียนบทความลงในบล็อค
ให้ทุกๆท่านๆได้อ่านกันค่ะ
อริสโตเติล (Aristotle) ปรัชญาเมธีชาวกรีกโบราณ ซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งวิชารัฐศาสตร์” ผู้กล่าว
ไว้ว่า มนุษย์ตามธรรมชาติเป็นสัตว์การเมืองต้องอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มหรือชุมชน อันแตกต่างไปจากสัตว์
โลกอื่น ๆ ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ด้วยสัญชาตญาณเป็นหลัก หากแต่มนุษย์นอกจากจะอยู่ด้วยสัญชาตญาณแล้ว ยังมี
เป้าหมายอยู่ร่วมกันอีกด้วย มนุษย์มีการสื่อสารด้วยภาษาทำให้มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เพราะมนุษย์มี
ธรรมชาติแห่งการใช้ภาษา ดังนั้นการอยู่ร่วมกันของมนุษย์จึงมิใช่มีชีวิตอยู่ไปเพียงวันหนึ่ง ๆ เท่านั้น หากแต่
เป็นการอยู่ร่วมกันเพื่อจะให้มีชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย เราก็จะมองเห็นภาพของการเมืองในแง่หนึ่งว่าการเมืองนั้นก็
คือ การอยู่ร่วมกันของมนุษย์ในชุมชนหรือสังคมเพื่อให้มีความสงบสุข สังคมที่สมบูรณ์แบบก็คือรัฐ เพราะรัฐ
มีความสมบูรณ์ในตัวเอง
การเมืองที่ทุกคนให้ความสนใจคือการปกครองระดับประเทศ อริสโตเติลแบ่งลักษณะการปกครองออกเป็น 2
ประเภท เปนรูปแบบการปกครองที่ดีและเลว คือ
1. รูปแบบการปกครองที่ดี คือ การปกครองเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ได้แก่รูปแบบราชาธิปไตย อภิชนาธิปไตย
และโพลิตี้ ส่วนรูปแบบการปกครองที่เลวคือ การปกครองส่วนรวมเพื่อประโยชน์ส่วนตน ได้แก่ รูปแบบท
รราชาธิปไตย คณาธิปไตย และประชาธิปไตย
2. รูปแบบโพลิตี้ คือรูปแบบผสมระหว่างคณาธิปไตยกับประชาธิปไตย แบ่งประชาชนออกเป็นชนชั้นคนรวย
ชนชั้นกลาง และชนชั้นคนจน
แนวคิดของอริสโตเติลในการเมือง สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของอริสโตเติลในการเสนอทางเลือก
ของรูปแบบการเมืองการปกครองที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้ในทางปฎิบัติมากกว่ารูปแบบในอุดมคติ
ความคิดทางการเมืองของอริสโตเติล คือ คุณูปการอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ในโลกทุกวันนี้
ถ้าจะนำการเมืองการปกครองในสมัยปัจจุบันนี้มาเปรียบเทียบกับการเมืองการปกครองของอริสโตเติลคงจะ
เป็นการปกครองที่ดูจะไม่ค่อยเหมือนกันสักเท่าไหร่นัก เพราะการปกครองมนุษย์ของอริสโตเติลเป็นการ
ปกครองที่จะทำให้มนุษย์มีความสุข ความสงบกันทั่วหน้า แต่ปัจจุบันการเมืองการปกครองของประเทศเรา
นั้นจะเป็นการแบ่งแยกตามฝ่าย ตามสี เป็นพรรคเป็นพวก ฝ่ายไหนด้านไหนมีประโยชน์ เอื้ออำนวยความ
สะดวกซึ่งกันและกันก็เห็นดีเห็นงามกัน ทำให้ขาดความสงบในชีวิต บ้านเมืองก็ไม่สงบตามไปด้วย (แล้วจะ
แบ่งฝ่ายกันทำไม) ดูเหมือนว่าถ้าเราจะนำการเมืองการปกครองของไทยไปการเมืองการปกครองโลก การ
เมืองทั้งโลกคงไปการเมืองจักรวาล (55+)
คงจะเป็นการยาก(มาก)ที่จะสรุปว่าการปกครองของใครดีที่สุด เพราะต่างก็มีข้อดีข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น ถ้า
ขาดระบบการเมืองการปกครองก็จะทำให้บ้านเมืองของเราวุ่นวาย ไม่สงบสุข ในขณะที่สถานการณ์บ้าน
เมืองของเรากำลังไม่สงบสุข ประชาชนทั่วไปก็คงจะต้องการผู้ปกครองที่ดี ในความคิดของดิฉันคิดว่าถ้านัก
ศึกษาปรัชญาเป็นผู้มีความรู้และความสามรถมากกว่าผู้ที่เรียนสาขาวิชาอื่น เพราะปรัชญาเป็นศาสตร์ของ
ศาสตร์ทั้งหลาย ผู้ปกครองประเทศที่ดีก็ควรเรียนจบเอกศาสนาและปรัชญา(55+ ปรัชญาจะได้ยิ่งใหญ่ ไม่มี
ใครมาดูถูก) เพราะอย่างน้อยปรัชญาก็สอนให้คนดำเนินชีวิตทางสายกลาง ประเทศชาติจะได้ถูกโกงกินน้อย
ที่สุดและจะได้มีความเจริญยิ่งๆขึ้นไป (ประเทศไทยจงเจริญ)
ณ ขณะนี้คงขอตัวลาไปก่อน เพราะมีภารกิจที่ต้องทำอีกมากมาย เห้อๆ ขอขอบคุนทุกๆท่านที่อ่านมาจนจบ
หรืออาจจะไม่จบ (อาจจะไม่ได้อะไรเลย หรือได้เพียงเล้กน้อย ป่อย !! !) สวัสดีค่ะ
ไว้ว่า มนุษย์ตามธรรมชาติเป็นสัตว์การเมืองต้องอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มหรือชุมชน อันแตกต่างไปจากสัตว์
โลกอื่น ๆ ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ด้วยสัญชาตญาณเป็นหลัก หากแต่มนุษย์นอกจากจะอยู่ด้วยสัญชาตญาณแล้ว ยังมี
เป้าหมายอยู่ร่วมกันอีกด้วย มนุษย์มีการสื่อสารด้วยภาษาทำให้มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เพราะมนุษย์มี
ธรรมชาติแห่งการใช้ภาษา ดังนั้นการอยู่ร่วมกันของมนุษย์จึงมิใช่มีชีวิตอยู่ไปเพียงวันหนึ่ง ๆ เท่านั้น หากแต่
เป็นการอยู่ร่วมกันเพื่อจะให้มีชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย เราก็จะมองเห็นภาพของการเมืองในแง่หนึ่งว่าการเมืองนั้นก็
คือ การอยู่ร่วมกันของมนุษย์ในชุมชนหรือสังคมเพื่อให้มีความสงบสุข สังคมที่สมบูรณ์แบบก็คือรัฐ เพราะรัฐ
มีความสมบูรณ์ในตัวเอง
การเมืองที่ทุกคนให้ความสนใจคือการปกครองระดับประเทศ อริสโตเติลแบ่งลักษณะการปกครองออกเป็น 2
ประเภท เปนรูปแบบการปกครองที่ดีและเลว คือ
1. รูปแบบการปกครองที่ดี คือ การปกครองเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ได้แก่รูปแบบราชาธิปไตย อภิชนาธิปไตย
และโพลิตี้ ส่วนรูปแบบการปกครองที่เลวคือ การปกครองส่วนรวมเพื่อประโยชน์ส่วนตน ได้แก่ รูปแบบท
รราชาธิปไตย คณาธิปไตย และประชาธิปไตย
2. รูปแบบโพลิตี้ คือรูปแบบผสมระหว่างคณาธิปไตยกับประชาธิปไตย แบ่งประชาชนออกเป็นชนชั้นคนรวย
ชนชั้นกลาง และชนชั้นคนจน
แนวคิดของอริสโตเติลในการเมือง สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของอริสโตเติลในการเสนอทางเลือก
ของรูปแบบการเมืองการปกครองที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้ในทางปฎิบัติมากกว่ารูปแบบในอุดมคติ
ความคิดทางการเมืองของอริสโตเติล คือ คุณูปการอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ในโลกทุกวันนี้
ถ้าจะนำการเมืองการปกครองในสมัยปัจจุบันนี้มาเปรียบเทียบกับการเมืองการปกครองของอริสโตเติลคงจะ
เป็นการปกครองที่ดูจะไม่ค่อยเหมือนกันสักเท่าไหร่นัก เพราะการปกครองมนุษย์ของอริสโตเติลเป็นการ
ปกครองที่จะทำให้มนุษย์มีความสุข ความสงบกันทั่วหน้า แต่ปัจจุบันการเมืองการปกครองของประเทศเรา
นั้นจะเป็นการแบ่งแยกตามฝ่าย ตามสี เป็นพรรคเป็นพวก ฝ่ายไหนด้านไหนมีประโยชน์ เอื้ออำนวยความ
สะดวกซึ่งกันและกันก็เห็นดีเห็นงามกัน ทำให้ขาดความสงบในชีวิต บ้านเมืองก็ไม่สงบตามไปด้วย (แล้วจะ
แบ่งฝ่ายกันทำไม) ดูเหมือนว่าถ้าเราจะนำการเมืองการปกครองของไทยไปการเมืองการปกครองโลก การ
เมืองทั้งโลกคงไปการเมืองจักรวาล (55+)
คงจะเป็นการยาก(มาก)ที่จะสรุปว่าการปกครองของใครดีที่สุด เพราะต่างก็มีข้อดีข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น ถ้า
ขาดระบบการเมืองการปกครองก็จะทำให้บ้านเมืองของเราวุ่นวาย ไม่สงบสุข ในขณะที่สถานการณ์บ้าน
เมืองของเรากำลังไม่สงบสุข ประชาชนทั่วไปก็คงจะต้องการผู้ปกครองที่ดี ในความคิดของดิฉันคิดว่าถ้านัก
ศึกษาปรัชญาเป็นผู้มีความรู้และความสามรถมากกว่าผู้ที่เรียนสาขาวิชาอื่น เพราะปรัชญาเป็นศาสตร์ของ
ศาสตร์ทั้งหลาย ผู้ปกครองประเทศที่ดีก็ควรเรียนจบเอกศาสนาและปรัชญา(55+ ปรัชญาจะได้ยิ่งใหญ่ ไม่มี
ใครมาดูถูก) เพราะอย่างน้อยปรัชญาก็สอนให้คนดำเนินชีวิตทางสายกลาง ประเทศชาติจะได้ถูกโกงกินน้อย
ที่สุดและจะได้มีความเจริญยิ่งๆขึ้นไป (ประเทศไทยจงเจริญ)
ณ ขณะนี้คงขอตัวลาไปก่อน เพราะมีภารกิจที่ต้องทำอีกมากมาย เห้อๆ ขอขอบคุนทุกๆท่านที่อ่านมาจนจบ
หรืออาจจะไม่จบ (อาจจะไม่ได้อะไรเลย หรือได้เพียงเล้กน้อย ป่อย !! !) สวัสดีค่ะ
จบได้ดี
ตอบลบ"ผู้ปกครองประเทศที่ดีก็ควรเรียนจบเอกศาสนาและปรัชญา"
เห็นด้วย
เพราะยังไม่อยากบวชพระ
><"
ป่อยยยย!!!! ตึง
ผู้ปกครองควรเป็นนักปรัชญา = นายกเรียนปรัชญา
ตอบลบแต่ให้ดีน่าจะเรียนกันทุกหมู่เหล่า อาจเรียนเป็นพื้นฐาน
เพื่อนคุณภาพที่ดีของสังคม ^^
การเมืองไทย คือการรวมตัว ของผู้มีอุดมการณ์ทางอำนาจเดียวกัน
ตอบลบการแบ่งผลประโยชน์อย่างลงตัว
แสดง ให้เห็นว่า เรา เป็นผู้มีความรู้มาก เพราะเรา เราเรียนปรัชญา อิอิ
ตอบลบขอ รัฐบาลที่ทำให้ ประชาชนไม่อดตายได้มั้ย
เอ็ม...
ตอบลบมันเป็นงึกงึก งั่กงั่ก จริง ๆ หว่ะ
แต่ก็เอาเหอะ ถึงจะลายตาตามประสาคนแก่ แต่เนื้อหาและลวดลายการนำเสนอ ก็ถือว่าเป็นก้าวแรกที่ทำได้ดี หากมีเวลา คราวหน้าคราวหลังเอ็มก็ตรวจสอบรึว่าเรียนรู้จากเพื่อน ๆ ที่มีประสบการณ์ซะหน่อย คิดว่าอนาคตการนำเสนอของเอ็มคงไม่ธรรมดา
พยายามต่อไป...เอาใจช่วยนะจ๊ะ
...บุญรักษา..
อาจารย์แรก
ต่อไป เราจะได้เป็นใหญ่ทางการเมือง ใช่ป่าว++
ตอบลบตอนนี้ปัจุบัน นายกของเราก็จบปรัชญา
เราต้องคอยดูกันต่อไปว่า เค้าจะปกครองประเทศโดย
นำหลักนั้นมาใช่รึป่าว
มันจะดีขึ้นชิมิ ^^
ผู้ที่จะกระทำการใหญ่.หรือ ผู้ที่จะเปงนายคนได้...
ตอบลบต้องมีใจกว้างและแนวคิดที่..ฉลาด...
ถ้าได้เรียนปรัชญาคงดี..
ต้องเข้าใจว่า วัฒนธรรมเอเชียก็เป็นแบบเจ้าขุนมูลนายมาตั้งนานแล้วนะ
ตอบลบเพียงแต่ว่า มันต้องมีขอบเขตและกฎหมายที่ชัดเจนกว่านี้
เพื่อจะเป็นการจำกัดสิทธิ์ของนักการเมืองให้อยู่ในขอบเขต
ไม่ใช่ว่าทำไร ก็กลายเป็นไม่ผิดไปซะหมด
แบบนี้ไม่ไหว
อ่านแล้วได้ความรู้ดี ไม่ยืดเยื้อด้วย
ดีมากกับบล็อกนี้
ตอบลบมีสาระในเรื่องการเมืองการปกครอง
และให้ข้อคิดเห็นที่ดีมากในการเมืองปัจจุบันของประเทศไทย
ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก
ตอบลบแหม่ มุขหลวงประดิษฐ์ไพเราะของเธอ ชนะเลิศศศศศศศศศศศ
ตอบลบ