วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การเมืองการปกครองของไทย(มันเปนงึกๆงักๆ)






สวัสดีทุกๆท่าน และท่านอาจารย์แรกค่ะ ผู้ที่สั่งงานและให้ส่งงานในบล็อก

คือไม่เคยทำบล็อคแบบนี้มาก่อนก็เลยยังดูงงๆอยู่บ้าง

แต่ก็พยามสุดชีวิตเพื่อที่จะได้ที่จะได้เขียนบทความลงในบล็อค

ให้ทุกๆท่านๆได้อ่านกันค่ะ






อริสโตเติล (Aristotle) ปรัชญาเมธีชาวกรีกโบราณ ซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งวิชารัฐศาสตร์” ผู้กล่าว

ไว้ว่า มนุษย์ตามธรรมชาติเป็นสัตว์การเมืองต้องอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มหรือชุมชน อันแตกต่างไปจากสัตว์

โลกอื่น ๆ ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ด้วยสัญชาตญาณเป็นหลัก หากแต่มนุษย์นอกจากจะอยู่ด้วยสัญชาตญาณแล้ว ยังมี

เป้าหมายอยู่ร่วมกันอีกด้วย มนุษย์มีการสื่อสารด้วยภาษาทำให้มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เพราะมนุษย์มี

ธรรมชาติแห่งการใช้ภาษา ดังนั้นการอยู่ร่วมกันของมนุษย์จึงมิใช่มีชีวิตอยู่ไปเพียงวันหนึ่ง ๆ เท่านั้น หากแต่
เป็นการอยู่ร่วมกันเพื่อจะให้มีชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย เราก็จะมองเห็นภาพของการเมืองในแง่หนึ่งว่าการเมืองนั้นก็
คือ การอยู่ร่วมกันของมนุษย์ในชุมชนหรือสังคมเพื่อให้มีความสงบสุข สังคมที่สมบูรณ์แบบก็คือรัฐ เพราะรัฐ
มีความสมบูรณ์ในตัวเอง


การเมืองที่ทุกคนให้ความสนใจคือการปกครองระดับประเทศ อริสโตเติลแบ่งลักษณะการปกครองออกเป็น 2
ประเภท เปนรูปแบบการปกครองที่ดีและเลว คือ

1. รูปแบบการปกครองที่ดี คือ การปกครองเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ได้แก่รูปแบบราชาธิปไตย อภิชนาธิปไตย

และโพลิตี้ ส่วนรูปแบบการปกครองที่เลวคือ การปกครองส่วนรวมเพื่อประโยชน์ส่วนตน ได้แก่ รูปแบบท

รราชาธิปไตย คณาธิปไตย และประชาธิปไตย

2. รูปแบบโพลิตี้ คือรูปแบบผสมระหว่างคณาธิปไตยกับประชาธิปไตย แบ่งประชาชนออกเป็นชนชั้นคนรวย

ชนชั้นกลาง และชนชั้นคนจน

แนวคิดของอริสโตเติลในการเมือง สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของอริสโตเติลในการเสนอทางเลือก

ของรูปแบบการเมืองการปกครองที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้ในทางปฎิบัติมากกว่ารูปแบบในอุดมคติ

ความคิดทางการเมืองของอริสโตเติล คือ คุณูปการอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ในโลกทุกวันนี้

ถ้าจะนำการเมืองการปกครองในสมัยปัจจุบันนี้มาเปรียบเทียบกับการเมืองการปกครองของอริสโตเติลคงจะ

เป็นการปกครองที่ดูจะไม่ค่อยเหมือนกันสักเท่าไหร่นัก เพราะการปกครองมนุษย์ของอริสโตเติลเป็นการ

ปกครองที่จะทำให้มนุษย์มีความสุข ความสงบกันทั่วหน้า แต่ปัจจุบันการเมืองการปกครองของประเทศเรา

นั้นจะเป็นการแบ่งแยกตามฝ่าย ตามสี เป็นพรรคเป็นพวก ฝ่ายไหนด้านไหนมีประโยชน์ เอื้ออำนวยความ

สะดวกซึ่งกันและกันก็เห็นดีเห็นงามกัน ทำให้ขาดความสงบในชีวิต บ้านเมืองก็ไม่สงบตามไปด้วย (แล้วจะ

แบ่งฝ่ายกันทำไม) ดูเหมือนว่าถ้าเราจะนำการเมืองการปกครองของไทยไปการเมืองการปกครองโลก การ

เมืองทั้งโลกคงไปการเมืองจักรวาล (55+)

คงจะเป็นการยาก(มาก)ที่จะสรุปว่าการปกครองของใครดีที่สุด เพราะต่างก็มีข้อดีข้อเสียด้วยกันทั้งนั้น ถ้า

ขาดระบบการเมืองการปกครองก็จะทำให้บ้านเมืองของเราวุ่นวาย ไม่สงบสุข ในขณะที่สถานการณ์บ้าน

เมืองของเรากำลังไม่สงบสุข ประชาชนทั่วไปก็คงจะต้องการผู้ปกครองที่ดี ในความคิดของดิฉันคิดว่าถ้านัก

ศึกษาปรัชญาเป็นผู้มีความรู้และความสามรถมากกว่าผู้ที่เรียนสาขาวิชาอื่น เพราะปรัชญาเป็นศาสตร์ของ

ศาสตร์ทั้งหลาย ผู้ปกครองประเทศที่ดีก็ควรเรียนจบเอกศาสนาและปรัชญา(55+ ปรัชญาจะได้ยิ่งใหญ่ ไม่มี

ใครมาดูถูก) เพราะอย่างน้อยปรัชญาก็สอนให้คนดำเนินชีวิตทางสายกลาง ประเทศชาติจะได้ถูกโกงกินน้อย

ที่สุดและจะได้มีความเจริญยิ่งๆขึ้นไป (ประเทศไทยจงเจริญ)

ณ ขณะนี้คงขอตัวลาไปก่อน เพราะมีภารกิจที่ต้องทำอีกมากมาย เห้อๆ ขอขอบคุนทุกๆท่านที่อ่านมาจนจบ


หรืออาจจะไม่จบ (อาจจะไม่ได้อะไรเลย หรือได้เพียงเล้กน้อย ป่อย !! !) สวัสดีค่ะ

11 ความคิดเห็น:

  1. จบได้ดี


    "ผู้ปกครองประเทศที่ดีก็ควรเรียนจบเอกศาสนาและปรัชญา"



    เห็นด้วย
    เพราะยังไม่อยากบวชพระ
    ><"


    ป่อยยยย!!!! ตึง

    ตอบลบ
  2. ผู้ปกครองควรเป็นนักปรัชญา = นายกเรียนปรัชญา

    แต่ให้ดีน่าจะเรียนกันทุกหมู่เหล่า อาจเรียนเป็นพื้นฐาน

    เพื่อนคุณภาพที่ดีของสังคม ^^

    ตอบลบ
  3. การเมืองไทย คือการรวมตัว ของผู้มีอุดมการณ์ทางอำนาจเดียวกัน

    การแบ่งผลประโยชน์อย่างลงตัว

    ตอบลบ
  4. แสดง ให้เห็นว่า เรา เป็นผู้มีความรู้มาก เพราะเรา เราเรียนปรัชญา อิอิ


    ขอ รัฐบาลที่ทำให้ ประชาชนไม่อดตายได้มั้ย

    ตอบลบ
  5. เอ็ม...
    มันเป็นงึกงึก งั่กงั่ก จริง ๆ หว่ะ
    แต่ก็เอาเหอะ ถึงจะลายตาตามประสาคนแก่ แต่เนื้อหาและลวดลายการนำเสนอ ก็ถือว่าเป็นก้าวแรกที่ทำได้ดี หากมีเวลา คราวหน้าคราวหลังเอ็มก็ตรวจสอบรึว่าเรียนรู้จากเพื่อน ๆ ที่มีประสบการณ์ซะหน่อย คิดว่าอนาคตการนำเสนอของเอ็มคงไม่ธรรมดา
    พยายามต่อไป...เอาใจช่วยนะจ๊ะ
    ...บุญรักษา..
    อาจารย์แรก

    ตอบลบ
  6. ต่อไป เราจะได้เป็นใหญ่ทางการเมือง ใช่ป่าว++


    ตอนนี้ปัจุบัน นายกของเราก็จบปรัชญา


    เราต้องคอยดูกันต่อไปว่า เค้าจะปกครองประเทศโดย


    นำหลักนั้นมาใช่รึป่าว


    มันจะดีขึ้นชิมิ ^^

    ตอบลบ
  7. ผู้ที่จะกระทำการใหญ่.หรือ ผู้ที่จะเปงนายคนได้...

    ต้องมีใจกว้างและแนวคิดที่..ฉลาด...

    ถ้าได้เรียนปรัชญาคงดี..

    ตอบลบ
  8. ต้องเข้าใจว่า วัฒนธรรมเอเชียก็เป็นแบบเจ้าขุนมูลนายมาตั้งนานแล้วนะ
    เพียงแต่ว่า มันต้องมีขอบเขตและกฎหมายที่ชัดเจนกว่านี้

    เพื่อจะเป็นการจำกัดสิทธิ์ของนักการเมืองให้อยู่ในขอบเขต
    ไม่ใช่ว่าทำไร ก็กลายเป็นไม่ผิดไปซะหมด

    แบบนี้ไม่ไหว

    อ่านแล้วได้ความรู้ดี ไม่ยืดเยื้อด้วย

    ตอบลบ
  9. ดีมากกับบล็อกนี้
    มีสาระในเรื่องการเมืองการปกครอง
    และให้ข้อคิดเห็นที่ดีมากในการเมืองปัจจุบันของประเทศไทย

    ตอบลบ
  10. ไม่ระบุชื่อ10 สิงหาคม 2552 เวลา 22:03

    ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก

    ตอบลบ
  11. แหม่ มุขหลวงประดิษฐ์ไพเราะของเธอ ชนะเลิศศศศศศศศศศศ

    ตอบลบ